ประวัติหลวงปู่ใจ

พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม
พระมหาเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ ทรงวิทยาคุณเข้มขลังมากด้วยบุญญาภินิหารแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง

พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ)
ที่มาของภาพ (ข่าวสดออนไลน์.2563)

เนื้อหา
  • ชาติกำเนิด
  • ครอบครัว
  • อุปสมบท
  • เป็นเจ้าสำนักสงฆ์
  • เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายอิ่ม
  • เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน
  • พบกับหลวงปู่ยิ้ม
  • เพ่งกระแสจิตตัดเทียน
  • หลวงปู่ยิ้มถ่ายทอดวิชา
  • เถราจารย์ผู้เข้มขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
  • ตำแหน่งหน้าที่และสมณศักดิ์
  • ค่าเทอม 6 บาท
  • โรงเรียนวัดเสด็จ (สุทธิวิทยานุสรณ์)
  • สุทธิสารนิธิ
  • 100 ปี 78 พรรษา
ชาติกำเนิด
หลวงปู่ใจ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือนอ้าย ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2405 ณ บ้าน  ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม มีชื่อเดิมว่า ใจ ขำสมชัย

ครอบครัว 
บิดาชื่อ นายขำ ขำสมชัย มารดาชื่อ นางหุ่น ขำสมชัย พี่น้องด้วยกันถึง 11 คน โดยเป็นหญิง 6 ชาย 5 คน เรียงตามลำดับดังนี้
  1. หญิงชื่อ เอม
  2. หญิงชื่อ อำ
  3. หญิงชื่อ อึ่ง
  4. หญิงชื่อ เกิด
  5. หญิงชื่อ อ่วม
  6. หญิงชื่อ เอี่ยม
  7. ชายชื่อ  ใจ 
  8. ชายชื่อ หนูใหญ่
  9. ชายชื่อ ชุ่ม
  10. ชายชื่อ จิตร
  11. ชายชื่อ ชื่น
ต่อมาเมื่อนายใจอายุได้ 15 ปี ครอบครัวของท่านได้ย้ายอยู่หมู่ที่ 4 ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม อันเป็นภูมิลำเนาเดิมของปู่ และบิดา นายใจได้รับการศึกษาอักขรจากบิดาของท่านเองจนอ่านออกเขียนได้

อุปสมบท 
เมื่ออายุได้ 21 ปีบริบูรณ์ ก็ได้อุปสมบท ณ อุโบสถวัดบางเกาะเทพศักดิ์ เมื่อวันแรม 11 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม โดยมีพระอุปัชฌาย์จุ้ย วัดบางเกาะเทพศักดิ์ เป็นพระอุปัชฌายะ ได้รับฉายาว่า "อินฺทสุวณฺโณ" หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษายังวัดบางเกาะเทพศักดิ์ เพื่อศึกษาทั้งด้านวินัยและด้านพระปริยัติ จนมีความรู้แตกฉาน ทั้งอักษรไทยและขอม

สำหรับการเรียนหนังสือขอม เป็นที่สำคัญยิ่งสำหรับพระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้น ด้วยพระไตรปิฎกนั้น แต่เดิมเขียนด้วยอักษรขอม เพิ่งจะเขียนด้วยอักษรไทยในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส นี่เอง

นอกเหนือไปจากการศึกษาด้านพระวินัย พระปริยัติแล้วนั้น หลวงปู่ใจยังให้ความสนใจในเรื่องของคาถาอาคม และได้ขอเล่าเรียนจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ต่อเมื่อท่านออกเดินธุดงค์เพื่อฝึกจิตสมาธิในพงไพรกว้าง ตอนใดที่พบพานพระธุดงค์ด้วยกัน ท่านมักขอศึกษาวิชาด้วย กล่าวว่า ท่านมีโอกาสได้เรียนรู้วิชาทางสมาธิจาก พระอุปัชฌาย์ยิ้ม วัดหนองบัว จากในป่านั้นเอง ในคราที่ท่านเดินธุดงค์ไปพบกับหลวงปู่ยิ้ม

เป็นเจ้าสำนักสงฆ์
พระอุปัชฌาย์จุ้ย วัดบางเกาะ ได้ดำเนินการสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นในที่ดินของยายอิ่มและนายอ่อนที่บริจาคให้ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2434 ด้วยเงินสมทบบริจาคจำนวน 260 บาท พร้อมแต่งตั้งพระใจ ซึ่งอุปสมบทมาได้ 8 พรรษาแล้ว เป็นผู้ปกครองสำนักสงฆ์แห่งนี้ มีพระภิกษุจำพรรษาด้วย 4 รูป

เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายอิ่ม
ต่อมา ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2434 ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ท่านพระครูวิมลเกียรติ (ป้าน) เจ้าอาวาสวัดเหมืองใหม่ เจ้าคณะแขวงเมืองราชบุรี ได้เปลี่ยนชื่อสำนักสงฆ์เป็นวัดใหม่ยายอิ่ม ตามนามผู้ถวายที่ดิน และแต่งตั้งให้พระใจ เป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระอธิการปกครองวัด มีชื่อวัดว่า วัดใหม่ยายอิ่ม 

เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน
เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเป็นวิสุงคามสีมาแล้ว จึงให้ชื่อวัดใหม่ว่า "วัดใหม่ใต้ปากคลองดอน" ครั้นเมื่อปี พ.ศ.2458 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จมาตรวจการณ์คณะสงฆ์ และได้เสด็จมายังวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน ได้ทรงตั้งนามวัดใหม่ว่า "วัดเสด็จ"

พบกับหลวงปู่ยิ้ม
ในสมัยที่หลวงปู่ใจกำลังสร้างวัดเสด็จ ท่านได้เดินทางไปที่ จ.กาญจนบุรีอยู่บ่อย ๆ เพื่อไปหาซื้อไม้มา สร้างวัด ท่านขึ้นล่องอยู่หลายปีจึงสร้างวัดได้สำเร็จ  และทุกปีท่านจะมาแวะพักที่วัดหนองบัว เอาหมากพลูมาถวายหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งท่านเคารพหลวงปู่ยิ้มมาก มีอยู่ปีหนึ่ง หลวงปู่ยิ้มพูดเปิดทางให้กับหลวงปู่ใจว่า หากสนใจในวิทยาคมก็จะถ่ายทอดให้ หลวงปู่ใจจึงรีบขอตัวเป็นศิษย์ทันที 

เพ่งกระแสจิตตัดเทียน
หลวงปู่ยิ้มได้มอบบทเรียนบทแรกว่าด้วยการทดสอบพลังจิต โดยจุดเทียนตั้งไว้ที่ขันน้ำมนต์ แล้วให้หลวงปู่ใจเพ่งกระแสจิตไปที่เทียนให้เทียนขาดกลางให้ได้ ถ้าทำได้เมื่อใดจึงจะมอบวิชาให้ หลวงปู่ใจทำอยู่ 7 คืน เทียนก็ไม่ยอมขาด หลังจากกลับมาพัก ท่านจึงตัดสินใจว่าถ้าหากคืนพรุ่งนี้เทียนยังไม่ขาด ก็จะกลับอัมพวา ปรากฏว่าคืนวันที่ 8 ท่านทำได้สำเร็จ ท่านสามารถเพ่งกระแสจิตตัดเทียนให้ค่อย ๆ ละลายขาดลงตรงกลาง หลวงปู่ยิ้มได้กล่าวชมว่า "เมื่อแรกเรียนท่านก็เก่งกว่าเสียแล้ว" เพราะหลวงปู่ยิ้มเองต้องทำอยู่ถึง 15 วัน 

หลวงปู่ยิ้ม ถ่ายทอดวิชา
หลวงปู่ยิ้ม ได้ถ่ายทอดวิชาว่าด้วยการสร้างตะกรุดปราบทาษามหาระงับ ตะกรุดลูกอมอันเลื่องลือของท่านให้แก่หลวงปู่ใจจนหมดสิ้น ตะกรุดของหลวงปู่ใจท่านจะสร้างด้วยความพิถีพิถันใช้ความประณีตบรรจง ตะกรุดแต่ละดอกจะมีขนาดเท่ากัน ลักษณะการม้วนจะเหมือนกัน การขวั้นไหม 5 สี ร้อยตะกรุดลูกอม ก็ต้องใช้ไหมที่มีขนาดเท่ากันทุกเส้นเวลาขวั้นต้องจัดเกลียวให้เป็นระเบียบ และท่านจะปลุกเสกของ ๆ ท่านเพียงองค์เดียวเท่านั้น ตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจจะมีอยู่ 3 เนื้อคือ เนื้อทองคำ เนื้อนาค และเนื้อเงิน ปัจจุบันตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจนั้นหายาก ทุกคนที่มีต่างหวงแหน

เถราจารย์ผู้เข้มขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) แห่งวัดเสด็จ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นหนึ่งในบรรดาอมตเถราจารย์ผู้เข้มขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ปรากฎเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก และเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ ที่ปรากฎมากมายหลายรูป ตลอดสองฝั่งแห่งลำน้ำนั้น หากเอ่ยถึง หลวงปู่ใจ แห่งวัดเสด็จ ยากนักที่จะหาคนไม่รู้จักได้ ด้วยท่านเป็นพระนักพัฒนา ปรากฎผลงานมากมาย ทั้งในส่วนของวัดวาอารามและสถานที่ศึกษาด้านความเข้มขลังของยุคนั้นรูปหนึ่ง เห็นได้จากวัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสกเอาไว้ ปรากฎประสบการณ์มากมาย เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงกฤษดาภินิหารแห่งพระเวทย์อาคมขลังของท่าน

ท่านได้เคยสร้างพระไว้หลายอย่าง ทั้งเหรียญและพระหล่อเนื้อเมฆพัด พระปรกใบมะขามเนื้อเมฆพัดของท่านจัดเข้าอยู่ในชุดพระเบญจฯ ปรกใบมะขาม ซึ่งโด่งดังมาก นอกจากพระเครื่องแล้วท่านยังได้สร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ที่โดดเด่นมากก็คือตะกรุดลูกอม ที่มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนาค 

หลวงปู่ใจ ท่านเป็นพระเถราจารย์ ประพฤติตนอยู่ในกรอบแห่งพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เสมอต้นเสมอปลาย พูดน้อย และพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ไม่ยกตนข่มท่าน และไม่โอ้อวดคุณวิเศษแห่งตน

เหตุนี้วัตถุมงคลของท่าน จึงเข้มขลังอย่างยิ่งยวด แต่ก็ใช่เรื่องง่าย ที่ใครสักคนก่อนจะได้รับ ของดีจากมือของท่านโดยตรง ยิ่งช่วงที่ท่านมีอายุมากแล้ว ใครได้รับจากมือท่านถือว่าโชคดี บางคนเดินทางมาจากจังหวัดไกลิๆ ขอเท่าใดท่านก็ไม่ยอมให้ และหากท่านจะปฏิเสธ ท่านมักจะพูดว่า ยังไม่ว่างที่จะทำ หรือ มันจะไม่ค่อยดีละมั้ง หากท่านพูดเช่นนี้แล้วล่ะก็ อย่าไปง้อเสียให้ยาก ตรงกันข้าม กับบางคนที่ท่านเห็นว่าเหมาะสมและสมควร ท่านก็จะมอบให้ทันทีทั้งกำชับด้วยว่า “เก็บไว้ให้ดีนะจ๊ะ อย่าไปบอกใคร ของฉันดีทางแคล้วคลาด และเมตตามหานิยมจ๊ะ”

ตำแหน่งหน้าที่และสมณศักดิ์
  • พ.ศ.2434 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ยายอิ่ม
  • พ.ศ.2436 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน
  • พ.ศ.2458 เป็นเจ้าอาวาสวัดเสด็จ และเป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบางคนที
  • พ.ศ.2460 เป็นเจ้าคณะอำเภอบางคนที และได้รับพระราชทานสัญญาบัตรมีพระราชทินนามว่า "พระครูสุทธิสาร"
  • พ.ศ.2469 ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภออัมพวา
  • พ.ศ.2489 เลื่อนเป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก
  • พ.ศ.2495 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระสุทธิสารวุฒาจารย์"
  • พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช มีพระราชทินนามวา "พระราชมงคลวุฒาจารย์ สมุทรเขตคารวสถาน บริหารธรรมขันธโศภิต ยติคณิสสร  บวรสังฆาราม คามวาสี" มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด  พระครูสังฆรักษ์  พระครูสมุห์ พระครูใบฎีกา


พระราชมงคลวุฒาจารย์ เป็นผู้ใคร่ในการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง  ท่านคอยปรับปรุงตัวของท่านให้ได้รับการศึกษาเสมอมา ไม่ยอมให้ตนเป็นคนล้าสมัย เป็นนักศึกษาโดยแท้ แม้เมื่อวัยท่านถึง 90 ปีเศษ ท่านก็ยังขวนขวายยหาความรู้อยู่เป็นนิจ ถ้าพูดเรื่องการเขียนหนังสือแล้ว ท่านเขียนได้ถูกต้องเรียบร้อยสวยงาม ยากที่จะหาผู้ใหญ่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับท่านเขียนได้ ท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ  ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ท่านจะปรับตัวของท่านให้เข้ากับระเบียบแบบแผนได้เสมอ  โดยมิให้ใครทักท้วงได้เลย 

ท่านเป็นผู้ตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรกของ อ.อัมพวา เมื่อปี พ.ศ.2459 ที่วัดของท่าน โดยจัดหาครูสอนมาจากจังหวัดพระนคร ปีแรกไม่คอยมีใครสนใจ ต่อมาปี 2 จึงมีผู้สนใจมากขึ้น และในปีนั้นได้ส่งนักเรียนไปสอบนักธรรมชั้นตรีที่สนามสอบจังหวัดราชบุรีได้ 1 รูป และต่อมาก็มีผู้สอบนักธรรมตรี โท และเอก ได้ตลอดมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาปริยัติธรรมในอำเภอของท่านและอำเภอใกล้เคียง ท่านได้จัดส่งพระครูนักธรรมจากสำนักของท่านไปช่วยสอนตามที่ได้รับร้องขอจากสำนักอื่น ๆ เสมอมา

ค่าเทอม 6 บาท
ในด้านการศึกษาทางโลก ท่านได้ริเริ่มเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทยขึ้นที่วัดของท่าน เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2461 จนถึง พ.ศ.2466 โดยจ้างครูมาทำการสอนโดยใช้ศาลาวัดเป็นโรงเรียน ถ้าเป็นลูกศิษย์วัดไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ถ้าเป็นเด็กบ้านต้องเสียค่าเล่าเรียน คิดเป็นเทอม ๆ  ละ 6 บาท เพื่อใช้เป็นค่าจ้างครูมาสอน โรงเรียนของท่านเปิดทำการสอนอยู่จนทางการบ้านเมืองประกาศ พ.ร.บ.ประถมศึกษาให้ใช้ใน จ.สมุทรสงคราม จึงได้ล้มเลิกไป เพราะทางการจัดตั้งโรงเรียนขึ้นที่วัดอินทาราม ซึ่งอยู่ติด ๆ กับวัดเสด็จ

โรงเรียนวัดเสด็จ (สุทธิวิทยานุสรณ์) 
แม้โรงเรียนภาษาไทยของท่านจะล้มเลิกไปแล้ว ท่านก็ยังครุ่นคิดที่จะจัดตั้งขึ้นอีก เพราะเห็นว่าการศึกษาทำให้คนฉลาดขึ้น และคนฉลาดจะได้เป็นกำลังของบ้านเมืองและศาสนา ในกาลต่อมา มีชาวบ้านในละแวกวัดมากขึ้น เด็ก ๆ ต้องพายเรือไปเรียนถึงวัดเหมืองใหม่ เพราะโรงเรียนวัดอินทรารามได้ย้ายไปตั้งที่วัดเหมืองใหม่ ท่านจึงได้ขอให้ทางการจัดตั้งโรงเรียนประชาชาบาลขึ้นที่วัดเสด็จ ครั้นเมื่อได้รับอนุญาตในปี พ.ศ.2494 ท่านได้ให้ใช้ศาลาการเปรียญเป็นสถานที่เรียนไปก่อน และจึงค่อยเริ่มสร้างอาคารถาวรให้เป็นโรงเรียนขึ้น 1 หลัง เป็นอาคารตึก 2 ชั้น ก่ออิฐถือปูน กว้าง 16 ม.ยาว 58 ม. 14 ห้องเรียน สิ้นค่าก่อสร้าง 1,500,000 บาท สำเร็จเรียบร้อยก่อนท่านมรณะภาพ ตั้งชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนวัดเสด็จ (สุทธิวิทยานุสรณ์) " เปิดการเรียนการสอนมาจนถึงปัจจุบันนี้


สุทธิสารนิธิ
หลวงปู่ใจได้จัดตั้งมูลนิธิชื่อ สุทธิสารนิธิ ขึ้นไว้เพื่อบำรุงการศาสนศึกษาและการพระศาสนาของ อ.อัมพวา โดยได้จดทะเบียนเป็นการถูกต้องตามกฏหมาย โดยในวันจัดตั้งมีเงินทุนเป็นเงินสดอยู่ 11,000 บาท หลวงปู่ใจได้ตั้งความคาดหวังไว้ว่าจะให้มูลนิธินี้มีเงินทุนถึง 100,000 บาท แต่ก็ไม่สมประสงค์ตามความตั้งใจ เพราะท่านมรณภาพเสียก่อน 

100 ปี 78 พรรษา
หลวงปู่ใจ อินฺทสุวณฺโณ ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ตรงกับวันเสาร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 7 รวมสิริอายุ 100 ปี 78 พรรษา และพระราชทานเพลิงศพ เมื่อ วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2506
ศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียง ได้แก่
  1. หลวงปู่หยอด อดีตเจ้าอาสวัดแก้วเจริญ อดีตเจ้าอาวาส (องค์นี้หลวงปู่ใจเป็นพระอุปัชฌาย์)
  2. หลวงพ่อม่วง อดีตเจ้าอาวาสวัดยางงาม 
  3. หลวงพ่อเนื่อง อดีตเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี (ขอเรียนวิชาบางแขนง เช่น การทำตะกรุดลูกอม)
  4. พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ (องค์นี้ถือว่าเป็นศิษย์สายหลวงปู่ใจ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่หยอด)
  5. หลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (องค์นี้ถือว่าเป็นศิษย์สายหลวงปู่ใจ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่หยอด)
*********************
รวบรวมและเรียบเรียงโดย
พลตรี ดร.สุชาต  จันทรวงศ์
ผู้อำนวยการสถาบันราชบุรีศึกษา
1 ต.ค.2565 

ที่มาข้อมูลและภาพ
  • ข่าวสดออนไลน์. (2563). หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม . https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/amulets/news_4045814. [2565 กันยายน 21].
  • คง ธมฺมโชโต. (2555). ประวัติหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม . [Online].Available : https://m.facebook.com/media/set/?set=a.422058044547977.102004.119754824778302&type=1. [2565 กันยายน 19].
  • สุรชัย   วงศ์จินดาศักดิ์ และคณะ. (2506).อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชมงคลวุฒาจารย์. ไม่ระบุสำนักพิมพ์.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รายนามผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดเสด็จ ประจำปี 2565

ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 เพื่อบูรณะซ่อมแซมหลังคาพระอุโบสถ และช่อฟ้า ใบระกา ณ วัดเสด็จ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันอา...