1. มูลนิธินี้ให้เรียกชื่อว่า "สุทธิสารนิธิ"
วัตุประสงค์ของมูลนิธิ
2. มูลนิธินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบำรุงศาสนศึกษาและการคณะสงฆ์ เฉพาะพระสงฆ์อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ทรัพย์สินของมูลนิธิ
3. ทรัพย์สินของมูลนิธิ ในวันจัดตั้งมูลนิธินี้มีทุนเป็นเงินสด จำนวน 11,000 บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)
สถานที่ตั้ง
4. มูลนิธินี้ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่วัดเสด็จ ตำบลเหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ข้อกำหนดว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนกรรมการ
5. ให้มีคณะกรรมการจัดการมูลนิธินี้ คณะหนึ่งมีจำนวน 9 คน ประกอบด้วย
- กรรมการโดยตำแหน่งได้แก่ กรรมการสงฆ์อำเภออัมพวา และศึกษาธิการอำเภออัมพวา
- พระภิกษุที่ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล หรือเจ้าอาวาส ซึ่งคณะกรรมการเชิญเข้าร่วมเป็นกรรมการ
- คฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ซึ่งคณะกรรมการเชิญเข้าร่วมเป็นกรรมการ
7. ในการประชุมกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งจึงเป็นองค์ประชุม
8. คณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้ประธานกรรมการในชุดที่ผ่านไปเลือกตั้งกรรมการใหม่ ในกรณีที่กรรมการขาดจากตำแหน่ง ก่อนถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการที่เหลือเลือกตั้งแทน กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งแทนย่อมอยู่ในตำแหน่งให้เท่าระยะเวลาของผู้ซึ่งตนแทน กรรมการที่เป็นแล้วไม่ตัดสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกเข้ามาเป็นใหม่อีก
9. คณะกรรมการย่อมขาดจากตำแหน่งด้วยเหตุดงต่อไปนี้
- ถึงคราวออกตามวาระ
- มรณะภาพหรือตาย
- ลาสิกขาบท หรือพ้นจากตำแหน่ง ตามข้อ 5 (ย่อหน้าแรก)
- ลาออก
- ขาดจากสัญชาติไทยและศาสนาพุทธ
- ที่ประชุมคณะกรรมการลงมติให้ออกโดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการที่มาประชุม
- ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่น
การจัดการทรัพย์สินของมูลนิธิ
10. คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของมูลนิธิดังนี้
- จัดหา
- จัดรักษา
- ใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธินี้
การจัดหา
11. ในการจัดหาทรัพย์สินก็ดี ในการจัดหาผลประโยชน์จากทุนก็ดี จะจัดหาโดยวิธีใด ๆ ตามแต่คณะกรรมการจะพิจารณาเห็นสมควรโดยไม่เป็นการขัดต่อกฏหมาย
การรักษา
12. ในการรักษาทรัพย์สินของมูลนิธิ ให้เก็บรักษาไว้ในที่อันปลอดภัย เช่น ฝากธนาคารออมสินหรือธนาคารอื่นใดที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นการปลอดภัย
การใช้จ่าย
13. การใช้จ่ายทรัพย์สินของมูลนิธิ ย่อมจ่ายได้โดยอนุมัติคณะกรรมการในกรณีดังต่อไปนี้
- จ่ายเป็นค่านิตยภัตต์หรือค่าพาหนะครูสอนปริยัติธรรมในอำเภออัมพวา
- จ่ายเป็นค่าเครื่องอุปกรณ์การศึกษาปริยัติธรรม เฉพาะคณะสงฆ์อำเภออัมพวา
- จ่ายเป็นค่าใช้สอยในการสอบปริยัติธรรมสนามหลวงประจำปีของคณะสงฆ์อำเภออัมพวา
- จ่ายเป็นค่าพาหนะของพระกรรมการในการตรวจประโยคนักธรรมและธรรมศึกษา เฉพาะกรรมการของอำเภออัมพวา
- จ่ายเป็นค่าพาหนะของเจ้าอาวาส เจ้าคณะ หรือเจ้าสำนักเรียนที่ทางคณะสงฆ์นิมนต์มาด้วยการศาสนศึกษาหรือกิจของคณะสงฆ์
- จ่ายเป็นค่าเครื่องอุปกรณ์กิจการของคณะสงฆ์ส่วนกลางเฉพาะของอำเภออัมพวา
- จ่ายเป็นค่าใช้สอยในกิจการของมูลนิธิ เท่าที่จำเป็นและสมควร
เบ็ดเตล็ด
14. โดยปกติ ให้มีการประชุมคณะกรรมการในเดือนมกราคมของปีใหม่ทุกปี เพื่อหารือกิจการของมูลนิธิ พิจารณาบัญชีรับจ่าย และบัญชีงบดุล ประจำปีที่ล่วงมาแล้ว
- ในกรณีพิเศษ ประธานคณะกรรมการอาจเรียกประชุมคณะกรรมการได้เป็นครั้งคราว
- ประธานคณะกรรมการเป็นประธานการประชุม ถ้าประธานไม่อยู่ ให้รองประธานทำหน้าที่แทน หากไม่อยู่ทั้งสองให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเป็นประธานเฉพาะการประชุมนั้น
- มติของที่ประชุมให้ถือตามคะแนนเสียงข้างมาก เว้นแต่ในเรื่องที่กำหนดคะแนนเสียงให้เป็นอย่างอื่นให้ถือตามนั้น ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด
- การประชุมต้องออกหนังสือนัด และส่งระเบียบวาระไปด้วย ถ้ากรรมการมาไม่ครบองค์ประชุม ให้เลื่อนวันประชุมไปได้ไม่เกิน 14 วัน และแจ้งผู้ที่ไม่ได้มาประชุมทราบ
- กรรมการแต่ละรูปหรือแต่ละคน มีสิทธิเข้าประชุุมและออกเสียงลงคะแนน เสนอความคิดเห็นต่อที่ประชุมได้ กรรมการหนึ่งรูปหรือหนึ่งคนมีคะแนนหนึ่งเสียงในการลงมติ
- กรรมการคนใดไม่ได้มาประชุม กรรมการนั้นจะคัดค้านมติใด ๆ ที่คณะกรรมการลงไปแล้วหาได้ไม่
15. ในการทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับกิจการของมูลนิธิ ให้คณะกรรมการมอบหมายให้ศึกษาธิการอำเภอเป็นผู้ลงนาม
16. เมื่อสิ้นปีทุกปี ให้คณะกรรมการรายงานกิจการ รายรับ-รายจ่าย พร้อมทั้งรายละเอียดต่อที่ประชุมนำเสนอเจ้าคณะจังหวัดรับทราบ
17. เมื่อมูลนิธิเลิกล้มด้วเหตุใด ๆ ก็ตาม ให้คณะกรรมการมอบทรัพย์สินทั้งหมดแก่นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกัน
พระครูสุทธิสาร ผู้ทำตราสาร
(ไม่ทราบว่า ทำตราสารเมื่อใด คาดว่าน่าจะเป็น พ.ศ.2469-2489)
*******************************
ที่มาข้อมูล
- สุรชัย วงศ์จินดาศักดิ์ และคณะ. (2506).อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชมงคลวุฒาจารย์. ไม่ระบุสำนักพิมพ์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น